ฉลากและแก้ว

ฉลากและแก้ว – บรรจุภัณฑ์ที่มีความสมบูรณ์แบบฉลากและแก้ว – บรรจุภัณฑ์ที่มีความสมบูรณ์แบบ

  เฮนส์ บล๊ฮกเกอร์ (Heinz Brocker) อธิบายถึงการติดฉลากบนบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามด้วยราคาที่ย่อมเยาซึ่งสามารถทำได้โดยการจัดการกระบวนการผลิตในหน่วยการพิมพ์ให้มีความเหมาะสมบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร, บรรจุภัณฑ์ยา หรือบรรจุภัณฑ์อื่นๆที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้น ถือได้ว่า เป็นตัวหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้บริโภคจะใช้เป็นข้อตัดสินในการเลือกสินค้ามาใช้งานทุกวันนี้วัสดุที่ใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์จะต้องได้รับการยอมรับว่า ต้องป้องกันสินค้าที่บรรจุอยู่ข้างในได้, สามารถป้องกันสินค้าจากสภาพแวดล้อมได้,นำมาจัดวางได้เหมาะสม, และมีการออกแบบได้อย่างสวยงามเหมาะต่อการใช้งาน บรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องเหมาะกับการใช้งานทั้งในทางเทคนิคและในทางเศรษฐกิจ ทางขนส่ง, การตลาด และ การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ผลิตจึงต้องตระหนักถึงการผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและต้องคำนึงถึงส่วนของการขายปลีกและข้อกำหนดทางกฏหมายบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นต้องมีหน้าที่ในการป้องกันสินค้าจากภายนอก และทำให้สินค้าสามารถคงอยู่ในสภาพได้ แต่ถึงกระนั้นก็ตามความต้องการต่างๆต่อการใช้งานบรรจุภัณฑ์ก็มีมากขึ้นอยู่เรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่ผู้ซื้อตัดสินใจจะซื้อสินค้านั้นเป็นช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาที ปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจนั้นก็มาจากรูปลักษณ์,การจับถือ และประโยชน์การใช้สอยที่จะได้เพิ่มเติม

  ท้ายที่สุด ผู้บริโภคนั่นเองที่จะเป็นคนตัดสินใจว่า จะให้ทิศทางการตลาดของบรรจุภัณฑ์นั้นให้เป็นอย่างไรและอีกนัยหนึ่งก็จะเป็นผู้ตัดสินว่าบรรจุภัณฑ์นั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นแก้วนั้นมีความแข็ง มีข้อพิเศษที่แตกต่างจากวัสดุอื่น อาทิเช่น การทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจะมีผลต่อข้อความ , การป้องกันไม่ให้รสชาติของสินค้านั้นสูญเสีย, การทำปฏิกิริยากับแสง (โดยเฉพาะเมื่อรวมตัวกับออกซิเจน),ผลด้านสุขอนามัย, การทำปฏิกิริยากับข้อความ ในทางอุตสาหกรรมได้นำวัสดุแก้วมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ที่บรรจุสินค้าที่มีฉลากกาวติด (self-adhesive labels)ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้